ถ้ำหินปูนเกิดจากอะไร
เมื่อพูดถึง ถ้ำ หลายๆคนคงจะนึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวและอันซีนไทยแลนด์สวยๆ ที่เราเห็นในเว็บไซต์และโซเชี่ยวมีเดียต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ Instagram แต่บางคนก็อาจจะนึกถึงถ้ำที่ดูมืดมิด น่ากลัวและเต็มไปด้วยความลี้ลับ และความลึกลับ ที่ยากเกินจะจินตนาการจากในหนังแนวสยองขวัญ จนเรียกได้ว่าถ้าพูดถ้ำ ก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของความลี้ลับและความน่ากลัว แต่ถ้าคุณได้รู้จักและเคยไปท่องเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะถ้ำที่มีความสวยงามที่มาจากการสร้างสรรค์ของธรรมชาติอย่างหินงอกหินย้อย นั่นเอง
ถ้ำ หรือก็คือ โพรงหรือช่องที่มีลักษณะลึกเข้าไปในภูเขาหรือพื้นดิน มีทางน้ำสำหรับเข้าและออก โดยมีทั้งที่เป็นถ้ำขนาดเล็กและถ้ำขนาดใหญ่พอที่มนุษย์และสัตว์ทังหลายสามารถเข้าไปอยู่อาศัยได้ ส่วนการเกิดของถ้ำนั้นก็สามารถเกิดได้จากหลายๆสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น การที่ถูกคลื่นซัดปะทะหน้าผาที่บริเวณชายฝั่งทะเลในระยะเวลานานๆจนเกิดเป็นโพรงหรือถ้ำ หรือจะมาจากการระเบิดของภูเขาไฟ หรือแม้แต่การยกตัวของเปลือกโลกจึงทำให้มีน้ำไหลออกมาและเกิดเป็นทางน้ำที่ชั้นใต้ดินและกัดเซาะภูเขาหรือพื้นดินจนเกิดเป็นถ้ำขึ้นมา ซึ่งทั้งนี้นั้นภายในถ้ำบางแห่งก็อาจจะมีทั้งหินงอกหินย้อยจนเกิดเป็นความสวยงามที่เกิดจากธรรมชาติให้เราเห็นกันในปัจจุบันนั่นเอง
ถ้ำยังสามารถแบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ได้ถึง 4 ประเภทดังนี้
1. ถ้ำหินปูน (Solution cave)
2. ถ้ำน้ำแข็ง (Glacier cave)
3. ถ้ำตามชายฝั่งทะเล (Sea cave)
4. ถ้ำลาวา (Lava cave)
หลังจากกที่เราได้ทำความรู้จักกับประเภทของถ้ำกันไปแล้ว ที่นี้เราจะพาไปรู้จักกับถ้ำที่มีการค้นพบและน่าสนใจตามสถานที่ต่างๆทั่วโลก ยกตัวอย่างเช่น ถ้ำอัญมณี (Jewel cave) ที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาโดยถ้ำนี้มีจุดกำเนิดจากน้ำพุร้อนที่อยู่ลึกลงไปในชั้นใต้ดิน และถ้ำโมวิล (Movile) ที่ในโรมาเนียที่เกิดจากสารละลายของกรดซัลฟิวริก หรือจะเป็นถ้ำวาตนาเยอคูล (Vatnajokull) ในประเทศไอซ์แลนด์ที่เกิดจากธารน้ำแข็ง และถ้ำคาซามูรา (Kazamura) ที่เกิดจากการเย็นตัวของลาวา
ในฮาวาย
และมาที่ถ้ำประเภทสุดท้ายกันอย่างถ้ำหินปูนที่ส่วนใหญ่มักจะพบมากที่สุดในประเทศไทยโดยถ้ำหินปูน นั้นก็มีกระบวนการเริ่มต้นมาจากการสะสมของตะกอนแคลเซียมคาร์บอเนตที่อยู่ในน้ำทะเล และเมื่อตะกอนของแคลเซียมคาร์บอเนตเกิดการแข็งตัวขึ้นจนกลายเป็นหินปูนในที่สุด ต่อมาเปลือกโลกมีการเปลี่ยนแปลง ในพื้นที่ ที่มีตะกอนคาร์บอเนตก็จะยกตัวขึ้นเป็นแผ่นดิน และเมื่อฝนตกลงมาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ ก็ทำปฏิกิริยายากับน้ำจนเกิดกรดคาร์บอนิกและซึมลงสู่ใต้ดินและแทรกซึมไปตามรอยร้าวของพื้นที่ที่เกิดจากตะกอนคาร์บอเนต และเกิดการทำละลายหินปูนคาร์บอเนตและกัดกร่อนจนเกิดเป็นโพรงถ้ำขึ้นมานั่นเอง