ทำความรู้จัก ทางด่วนบนโลกอวกาศ
การเดินทางบนอวกาศ ดูจะเป็นเรื่องที่ยากจนมาพบกับเทคโนโลยีในปัจจุบันที่ต้องยอมรับว่าเป็นตัวช่วยที่ดีทีเดียว แต่ถึงแม้จะมีเทคโนโลยีเป็นตัวช่วยแต่ก็ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างเลยทีเดียวที่ต้องเรียนรู้มากไปกว่านี้ โดยเฉพาะการเรียนรู้กับธรรมชาติให้มากกว่าเดิม
และหนึ่งในนั้นก็คือ ทางด่วนอวกาศ แน่นอนว่าสิ่งนี้เพิ่งจะถูกค้นพบได้ไม่นาน ซึ่งการค้นพบนี้เป็นการค้นพบที่ทำให้โลกได้เรียนรู้อะไรอีกมากเลยทีเดียว ผลการค้นพบเส้นทางหรือช่องทางการเดินทางจะเป็นอย่างไร และมีเรื่องที่น่าเรียนรู้หรือจะต้องรู้มากแค่ไหน เอาเป็นว่ามาดูกันเลย
ทางด่วนอวกาศ คืออะไร?
โดยปกติแล้วการเดินทางในอวกาศนั้นจะต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควรกว่าจะเดินทางจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งได้ อย่างเช่นการเดินทางจากโลกไปถึงดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ แน่นอนว่าการเดินทางจะไม่ใช่เพียงแค่หลักวันหรือหลักเดือนอย่างเดียวแต่จริงๆแล้วใช้ระยะเวลาเป็นหลักปีไปจนถึงขั้นหลาย 10 ปีเลยก็มี
นั่นจึงทำให้เห็นว่าการเดินทางในปัจจุบันระหว่างมิติอวกาศนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะฉะนั้นแล้วการมีตัวช่วยในการเดินทางนี้ อาจจะยังไม่สามารถสร้างเองได้แต่สามารถที่จะเรียนรู้ได้จากธรรมชาติที่เป็นผู้สร้าง
การค้นพบที่ว่านี้เป็นการค้นพบที่ถูกเรียกว่า โค้งแห่งความปั่นป่วน แค่ฟังก็คงพอจะรบรู้ถึงความวุ่นวายแล้ว
จริงๆแล้วช่วงโค้งนี้เป็นหนึ่งในระบบปฏิสัมพันธ์เชิงแรงโน้มถ่วงจากหลายๆระบบเข้ามาเชื่อมต่อกัน จนทำให้เกิดเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ เครือข่ายนี้จะเป็นตัวช่วยในการทำให้วัตถุสามารถข้ามระบบสุริยะไปได้อย่างรวดเร็วจากเดิมที่จะต้องใช้ระยะเวลาหลายแสนปีก็เหลือเพียงแค่ไม่กี่สิบปีเท่านั้น ซึ่งถือเป็นการย่นระยะเวลา
จะว่าไปแล้วการเดินทางผ่านช่องทางนี้เป็นการใช้แรงโน้มถ่วงในการเร่งการเดินทางมากขึ้น สุริยะจักรวาลนั้นก็เป็นการเชื่อมต่อกันในแต่ละจุดจนกลายเป็นเส้นทางสำหรับการเดินทาง และสามารถที่จะร่นระยะเวลาไปได้เยอะเลยทีเดียว
โดยระบบปฏิสัมพันธ์ของแรงโน้มถ่วงที่เกิดขึ้น มีผลต่อการเกิดโครงสร้างเชิงปริภูมิอันซับซ้อนที่เรียกกันว่า “แมนิโฟลด์” เพราะฉะนั้นแล้วภายในระบบสุริยะจักรวาล ก็ยังจะมีระบบแบบนี้อยู่โดยรอบ ในอนาคตสามารถที่จะเรียนรู้ได้จาก ระบบทางธรรมชาติที่เกิดขึ้น และสามารถที่จะเอามาใช้ในการพัฒนาให้ก้าวไปได้ไกลมากกว่าเดิมในอนาคต
จะว่าไปก็ไม่เชิงการเป็นความลับของจักรวาลที่เพิ่งถูกเปิดเผยในระยะเวลาที่ไม่นานมานี้ ซึ่งในอนาคตอาจจะสามารถเดินทางไปได้ง่ายกว่าเดิม ไม่ใช่แค่การเดินทางในโลกแต่เป็นการเดินทางในมิติจักรวาลที่ง่ายขึ้น เรียกได้ว่าเป็นอนาคตของมนุษยชาติโดยทีเดียว