Hyperloop One
ปกติแล้วการเดินทางของคนเราจะแบ่งออกเป็น 4 แบบ คือ รถไฟ,รถ,เรือ และ เครื่องบิน ปัญหาคือรถไฟกับเรือวิ่งช้าโดยเฉพาะประเทศที่ยังไม่มีรถไฟความเร็วสูงแม้เครื่องบินจะค่อนข้างเร็วแต่ราคาก็แพงคนทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงได้จนมาถึงเทคโนโลยีที่จะพูดกันในวันนี้ก็คือHyperloop หรือ Hyperloop One คนที่ผลักดันรูปแบบการเดินทางใหม่ที่น่าสนใจนี้ ซ้ำยังปลอดภัยและที่สำคัญที่สุดราคาเข้าถึงทุกคนได้ง่ายคนๆนั้นก็คือ Elon Musk คนดังที่สร้างSpaceX นั้นเอง บริษัทที่ตั้งเป้าเอาไว้ว่า จะทำให้การไปอวกาศให้มีราคาถูกลงโดยจรวดยุคใหม่ที่นำชิ้นส่วนกลับมาใช้ซ่ำได้ และ Elon Musk แกยังเป็นผู้ที่ร่วมก่อตั้งTesla และผู้ที่ร่วมก่อตั้งบริษัท Paypal หรือบริษัททำธุรกรรมออนไลน์ยักษ์ใหญ่ของโลก แต่แน่นอนโครงการในวันนี้ก็เป็นหนึ่งในโปรเจคท์ที่เขาเป็นคนก่อตั้งนั่นก็คือไฮเปอร์ลูปวันที่ตั้งเป้าใช้ขนส่งระยะทางไกลแบบเดียวกับเครื่องบินแต่ในราคาถูกกว่า
วิธีการทำงานของไฮเปอร์ลูปก็คือจะเล่นไปด้วยความเร็ว1235 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเดินทางจากกรุงเทพฯไปเชียงใหม่ใช้เวลาไม่เกินครึ่งชม แต่เทคโนโลยีใหม่ก็มาพร้อมกับปัญหาปัญหาก็คือการที่จะทำให้เคลื่อนที่เร็วขนาดนั้นจะต้องเกิดแรงเสียดทานจากอากาศและพื้น ยิ่งเคลื่อนที่เร็วมากเท่าไหร่แรงต้านก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
แต่เขาก็มีวิธีแก้ไข แล้ววิธีแก้หลักๆก็คือ
1.ขบวน Hyperloop จะแล่นไปในท่อที่ปิดสนิทเป็นสูญญากาศหรือแทบจะเหลืออากาศน้อยมาก
2.ขบวนยังต้อง”ลอย”เหนือลรางด้วยระบบแม่เหล็กแบบเดียวกับที่รถไฟความเร็วสูงใช้หรือMaglev ทำให้ลดแรงเสียดทานจากการสัมผัสของรถกับราง
3.ใช้คอมเพรสเซอร์ในการสร้างแรงดึงทางด้านหัวขบวนเมื่อประกอบเข้ากันทั้งสามอย่างจะทำให้ความเร็วสูงสุดได้กว่า1,100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
โดยที่ความสามารถของเข้า Hyperloop One นี้ยังใช้พลังงานหมุนเวียนก็คือเมื่อตอนที่รถเบรกที่สถานีปลายทาง ทำให้เกิดพลังงาน จากตอนเบรก เเละนำพลังานที่ได้มา นำกลับไปชาร์จไฟแบตเตอรี่ไว้เหมือนเดิมได้อีกด้วย
ตัวท่อประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่เร่งความเร็วติดตั้งเป็นแค่ส่วนไม่ต้องติดตั้งตลอดเส้นทางคือติดทุกๆ100 กิโลเมตรทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย เมื่อคำนวณราคาของขบวนรถและระบบมอเตอร์ที่ใช้อยู่ตกอยู่ที่หลาย ร้อยล้านดอลลาร์ซึ่งถือว่าค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายที่ใช้ทำตัวท่อซึ่งน่าจะอยู่ที่หลายพันล้านดอลลาร์นอกจากนี้ยังสร้างบนเสาหรือตอม่อได้ทำให้ไม่ต้องเสียเวลา เวนคืนที่ดินให้ยุ่งยากเป็นมิตรกับผู้อยู่อาศัยเดิม สำคัญที่สุดคือทางผู้สร้างมั่นใจมากว่าตัวระบบจะทนกับแผ่นดินไหวได้ เเละตอบโจทย์ โลกอนาคตแน่นอน